สายด่วน 1415
24 ชั่วโมง

มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก

ประวัติ

มูลนิธิโรงพยาบาลเด็กก่อตั้งมาเมื่อปี พ.ศ.2524 โดยได้รับอนุญาตตามทะเบียนเลขที่ ต. 193/2524  ลงวันที่ 10 ก.ค. 2524 และจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลต่อกองปกครองและทะเบียน กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่14 กันยายน 2524

ความเป็นมา

11

มูลนิธิโรงพยาบาลเด็กได้รับการดำเนินการก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 ซึ่งเป็นปีที่องค์กรสหประชาชาติ ได้ประกาศให้เป็นปีเด็กสากล โดยหวังที่จะสนับสนุนให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาและเป็นอนุสรณ์แก่ปีเด็กสากล เนื่องจากโรงพยาบาลเด็กซึ่งเดิมเป็นแผนกหนึ่งของโรงพยาบาลหญิง (โรงพยาบาลราชวิธีในปัจจุบัน) ได้แยกตัวเป็น กองโรงพยาบาลเด็ก สังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2517 มีหน้าที่ดูแลรักษาและให้การป้องกันโรคในเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 18 ปี ซึ่งส่วนใหญ่มีฐานะยากจน

โรงพยาบาลเด็กให้บริการคนไข้นอก และรับคนไข้ไว้รักษา พร้อมทั้งรับส่งต่อจากโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศไทย จากสถิติตั้งแต่แรกเริ่มที่ก่อตั้งเป็นโรงพยาบาลเด็กจนถึงปัจจุบันนี้ จำนวนคนไข้เพิ่มมากขึ้นทุกปี (ปัจจุบัน เฉลี่ยคนไข้นอกวันละ 800-900 คน ปีหนึ่ง 300,000 คน คนไข้ในเฉลี่ยปีละ 12,500 คน) ในระหว่างที่ดำเนินการมาได้ 7-8 ปีนั้น ได้ขยายจำนวนเตียง และได้รับอนุมัติให้ก่อสร้างอาคารหลังแรกได้แล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2525 ซึ่งตรงกับปีฉลองครบรอบ 200 ปี แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จากปริมาณคนไข้และจำนวนเตียงที่เพิ่มขึ้น ทำให้งบประมาณในการใช้จ่ายทุกหมวดเพิ่มมากขึ้นด้วย อัตรากำลังเจ้าหน้าที่จึงต้องขยายเพื่อรองรับการบริการ วัสดุใช้สอย อุปกรณ์ทางการแพทย์ ตลอดจนคุณภาพและปริมาณของยารักษาโรคซึ่งต้องปรับตัวให้เป็นไปตามความต้องการ และการเปลี่ยนแปลงทางวิทยาการของโรคต่างๆ ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โรงพยาบาลเด็กต้องรับภาระในค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ซึ่งมีฐานะยากจนถึง 70-80 % ไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ บางรายไม่สามารถรับผู้ป่วยไปเลี้ยงดูต่อ เกิดปัญหาแก่โรงพยาบาลในการที่จะต้องรับเลี้ยงดูเด็กกำพร้าเหล่านี้ต่อไป

เพื่อสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยเหล่านี้ ตลอดจนการดำเนินงานของโรงพยาบาลเด็ก “มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก” จึงได้รับการพิจารณาจัดตั้งในปี พ.ศ.2522 ​โดยในขึ้นแรกโรงพยาบาลเด็กได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมงกุฎราชกุมาร ขอพระราชทานพระรูปพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา มาพิมพ์เป็น ส.ค.ส.ประจำปี 2523 เพื่อจำหน่ายและรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธานำรายได้ทั้งหมดทูลเกล้าถวาย และได้รับพระราชกรุณาทรงพระราชทานกลับมาให้เป็นทุนในการก่อตั้งมูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก นอกจากนั้นได้รับความร่วมมือจากศาสตราจารย์ ระพี สาคริก, ดร.ปรีดี เอกะวิภาต และ อาจารย์จักรพันธุ์ โปษยะกฤต มอบภาพอันมีค่ายิ่งมาพิมพ์เป็น ส.ค.ส จำหน่ายเพื่อเป็นการเพิ่มทุนของมูลนิธิ ในขั้นต้น (และได้รับความเอื้อเฟื้อมาเป็นประจำทุกปี จนปัจจุบันนี้) จนกระทั้งได้รับการพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติได้รับอนุญาตและจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลต่อกองปกครองและทะเบียนในปี พ.ศ. 2524

วัตถุประสงค์

  1. ช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กจากครอบครัวที่ไม่อาจช่วยตนเอง ให้ได้รับการรักษาพยาบาลที่จำเป็นและเหมาะสมที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
  2. จัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย และมีความจำเป็นเพื่อพัฒนาด้านการรักษาพยาบาล ผู้ป่วยเด็กของสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
  3. ส่งเสริมและให้ทุนแก่แพทย์ และบุคลากรการแพทย์ของสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ให้เข้ารับการอบรมและศึกษาต่อในแขนงวิชาต่างๆเพื่อเพิ่มพูนความรู้ความสามารถในการดูแลรักษาผู้ป่วยเด็ก
  4. ส่งเสริมและให้ทุนแก่แพทย์ และบุคลากรการแพทย์ของสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ในการทำวิจัย เพื่อนำมาพัฒนาด้านการดูแลรักษา และป้องกันโรคในเด็ก
  5. ร่วมมือกับ ในการทำกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ และเผยแพร่ความรู้ เกี่ยวกับโรคในเด็กแก่ประชาชนทั่วไป
  6. ร่วมมือ และประสานงานกับสถาบันอื่น เพื่อให้มูลนิธิโรงพยาบาลเด็กดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น
  7. ช่วยเหลือ และให้การดูแลรักษาผู้ป่วยเด็กกำพร้าทั้งชาวไทย และต่างด้าว

มูลนิธิโรงพยาบาลเด็กร่วมกับสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี มีกิจกรรมที่ดำเนินการเพื่อสาธารณชน

  1. บริการเพื่อสาธารณชน

    • บริการให้การสงเคราะห์ ปีละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และช่วยเหลือค่ายาผู้ป่วยอนาถา

    • ให้การสงเคราะห์ครอบครัวผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ เช่น สงเคราะห์ค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้า ค่าเลี้ยงชีพ และค่าพาหนะเดินทางกลับภูมิลำเนา

    • ให้ความช่วยเหลือค่าน้ำเกลือ ค่ายาและค่าอวัยวะเทียมแก่ผู้ป่วยสามัญบางราย

  2. บริการด้านการเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน

  3. สนับสนุนสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ในการจัดซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย และจำเป็น หรือในกรณีเร่งด่วนเป็นประจำทุกปี